วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2551

ฟ้ามืดจึงเห็นดาว



ท้องฟ้ายามมืดสนิท...มองไม่เห็นแม้เส้นทางเดินข้างหน้าความรู้สึกหวาดกลัว เหน็บหนาว เคว้งคว้างย่อมก่อตัวเกิดขึ้นได้ไม่ยากเย็นคนเรามักจะหวาดกลัว...ต่อสิ่งที่สายตาไม่อาจจำแนกรายละเอียดได้ทั้งที่ในความเป็นจริง...ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังคงเป็นเช่นเดิมไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน...มืดหรือสว่างเหมือนกับเส้นทางเดินของชีวิตอุปสรรคและความผิดพลาดที่ถาโถมเข้ามาทำให้เราเหน็บหนาว หวาดกลัวและเคว้งคว้างเหมือนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดของความรู้สึก...มองไม่เห็นหนทางแห่งปัญหาทั้งปวง...แพ้...เราอาจจะพ่ายแพ้ต่อความมืดมิดนั้นความอดทนที่ตั้งไว้เริ่มเหมือนจะขาดผึงได้ยินแต่ความเงียบเชียบของความรู้สึกเพราะดวงตาได้มืดมิดจ่อมจมกับความสิ้นหวัง......แต่...ในความมืดมิดของท้องฟ้า...หากปรับดวงตาให้คุ้นชิน เราจะมองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้บ้างแม้เพียงราง ราง แต่ก็เพียงพอที่จะมองเห็นเชื่อเถิดว่า...ไม่มีความมืดมิดใด จะมืดมิดอย่างแท้จริงและหากเราแหงนมองขึ้นไปดวงดาวมากมายส่องแสงประกายเจิดจ้าวับวาวยิ่งท้องฟ้ามืดสนิทมากเท่าไรดวงดาวก็จะยิ่งสวยระยิบยามค่ำคืน เช่นกันแสงดาวดวงน้อยแม้ริบหรี่...จะเป็นดั่งคบเพลิงสว่างโชติช่วงในหัวใจของคนที่ว่างเปล่าอบอุ่นดั่งแสงดวงตะวันส่องนำให้นักเดินทางผู้เหน็บหนาวท่ามกลางปัญหา ความท้อแท้สิ้นหวังหากปรับความรู้สึกให้คุ้นชินหลับตาลง...เปิดหัวใจให้หัวใจได้ฟังเสียงความรู้สึกให้ความคิดได้โลดแล่นอย่างอิสระเราจะสามารถมองเห็นหนทางข้างหน้าได้เช่นกันเชื่อมั่นเถิดว่า...ไม่มีปัญหาใด...ไม่มีทางออกขอความสงบนิ่งเป็นดั่งดาวดวงน้อยช่วยส่องนำใจของนักเดินทางแห่งชีวิตผู้สิ้นหวัง ให้พลังอบอุ่นแห่งความเข้มแข็งโอบอุ้มและเยียวยาความเหน็บหนาวของหัวใจรำลึกไว้เสมอว่า...“เพราะฟ้ามืดดาวจึงสวย”หากไม่ข้ามพ้นอุปสรรค...ใยจะถึงที่หมาย"เข้มแข็งไว้...คนดี"
ที่มา :ทำดีดอทเนต

ไม่มีความคิดเห็น: